เล่นหุ้นถ้ารู้อนาคต จงหลีกเลี่ยงการลงรุนแรง

เล่นหุ้นไปทำไม คำถามที่ตอบง่ายแต่หลากหลาย เล่นเพื่อเอากำไร จะเป็นระยะสั้น กลาง ยาว ก็ต้องการกำไรทั้งนั้น แม้จะอยู่ในรูปแบบที่แตกต่าง ปันผล กำไรส่วนต่าง Growth ของราคาในกรณีที่ถือตลอดไป แต่สรุปเป้าหมายก็คือความมั่งคั่งหรือกำไรที่มากขึ้น,ในการ trade ที่ไม่ใช้การถือยาว เล่นเพื่อกินส่วนต่างจะมีความชัดเจนในการ realize กำไร ในแต่ละรอบ ซึ่งจะนำมาซึ่งแนวคิดที่ว่า ซื้อวันนี้กำไรในอนาคต ซื้อแล้วขึ้นจะกำไร กลยุทธที่ใช้จึงเป็นลักษณะ pattern นี้จะนำอะไรมาในอนาคต ราคาจะพุ่งขึ้นหลังจากซื้อไปแล้ว บทความจึงทดลองพิสูจน์ถ้าเรารู้อนาคตแล้วซื้อก่อนจะวิ่งผลจะเป็นอย่างไร แต่กลับมีเรื่องน่าประหลาดที่บังเอิญค้นพบจากการรู้อนาคตด้วย

สอนเล่นหุ้นด้วย System Trade

สอนเล่นหุ้นด้วย System Trade
หุ้น ซื้อแล้ววิ่ง ไม่นิ่งแช่นาน 

รวมบทความการลงทุน:เป้าหมายการลงทุน LTF หุ้น system trade,tfex

บทความนี้(เป็น link ไปที่ Stock Tutor )รวบรวมบทความที่น่าสนในสำหรับการลงทุน ตั้งแต่เริ่มต้นจากผู้สนใจที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก มาสู่เรื่องสินทรัพย์ชนิดต่างๆ กลยุทธ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นถ้าใช้วิธีต่างกันในการลงทุน จนท้ายที่สุดระบบที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ที่จะเป็นสิ่งที่ช่วยในการลงทุนให้กลายเป็นการทำธุรกิจที่ดี ไว้วางใจที่จะใช้วิธีตามระบบได้อย่างยาวนานต่อเนื่อง ถ้าอ่านบทความต่อเนื่องเรื่องที่ไม่เข้าใจก็จะถูกไขกระจ่างได้อย่างง่ายดาย แม้อาจจะสับสนในช่วงต้น แต่อ่านเทียบกันหลายบทความก็จะเห็นและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้อย่างไม่ยาก

Profit Twenty 2014: กำไร 10 เดือนของปี 2014 จาก System Trade กำไรสูงในระดับ 20%

จากบทความ เกษียณรวย ที่แนะนำว่าเราควรลงทุนให้ได้ผลตอบแทนทบต้น 20% ต่อปี พบว่าการสร้าง System Trade เพื่อการลงทุนก็สามารถทำผลงานได้อย่างน่าพอใจในปี 2014 แม้จะผ่านไปแค่ 10 เดือน

Systematic Trading:หุ้นธรรมดา+เทคนิคเยี่ยม=ผลตอบแทนระดับสูง

การลงทุนในหุ้น จะสามารถทำผ่านวิธีการวิเคราะห์ที่นิยมใช้กันได้สองลักษณะคือ ปัจจัยทางพื้นฐานของหุ้น Fundamental Analysis ปัจจัยทางเทคนิคของราคาหุ้น Technical Analysis หรือเรียกว่า เล่นหุ้นพื้นฐาน เล่นหุ้นทางเทคนิค โดยทั้งสองวิธีวิเคราะห์มีหลักการทฤษฎีที่เป็นรูปแบบเฉพาะของตนเอง โดยหัวข้อและวิธีปฏิบัติของวิธีวิเคราะห์ทั้งสอง มีทั้งแบบที่ขัดแย้งกันและเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันของทั้งสองวิธี เพราะวิธีทั้งสองสร้างมาจากแนวคิด ทฤษฎีที่สังเกตลักษณะธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงในมุมมองที่ต่างกัน วิธีจะบังเอิญเหมือนกันก็คงจะเป็นไปได้ยาก
การวิเคราะห์ทั้งสองแบบจะมีจุดอ่อนจุดแข็งที่ต่างกัน ซึ่งผลตอบแทนของผู้ที่ใช้วิธีวิเคราะห์ดังกล่าวจะขึ้นกับความรอบคอบในการ ส่งเสริมจุดแข็ง ปกป้องจุดอ่อน ให้โดดเด่นมีความได้เปรียบในการแข่งขันได้ทุกสภาวะตลาด